Mobile Banking เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ได้พลิกวงการการเงินไปอย่างสิ้นเชิง ด้วยการแตะเพียงไม่กี่ครั้งบนโทรศัพท์มือถือของเรา ก็ช่วยให้จัดการธุรกรรมและบริการทางการเงินที่หลากหลายได้ เช่น โอนเงิน จ่ายบิล ขอเสตทเม้น ขอสินเชื่อ ตรวจสอบตัวตน และอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้ทำให้สาขาธนาคารแบบดั้งเดิมเป็นที่ต้องการน้อยลง ทยอยปิดกันไปมากเลยทีเดียว เราจึงพูดได้ว่า Mobile Banking เข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมการเงินของเราอย่างแท้จริง ในบทความนี้ เราจึงจะขออธิบายเกี่ยวกับวิวัฒนาการ ประโยชน์ และอนาคตของโมบายแบงกิ้ง

เส้นทางของ Mobile Banking

  • พ.ศ. 2540: แนวคิดเกี่ยวกับ Mobile Banking เกิดขึ้นพร้อมกับการแนะนำระบบ SMS Banking ขั้นพื้นฐาน ลูกค้าสามารถรับข้อความเกี่ยวกับยอดคงเหลือในบัญชีและการแจ้งเตือนการทำธุรกรรม
  • พ.ศ. 2542: บริการ Mobile Banking แห่งแรกเปิดตัวโดย Finnish Merita Bank (ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ Nordea) โดยความร่วมมือกับ Nokia ช่วยให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงบริการธนาคารผ่านโทรศัพท์มือถือของตน
  • พ.ศ. 2544: Japan’s NTT DoCoMo เปิดตัวบริการอินเทอร์เน็ตบนมือถือ i-mode ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงบริการธนาคารทางโทรศัพท์มือถือ รวมถึงการสอบถามยอดคงเหลือและการโอนเงิน
  • พ.ศ. 2550: การเปิดตัวของ iPhone ได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมมือถือและกำหนดอนาคตของ Mobile Banking การผสมผสานระหว่างสมาร์ทโฟนและแอปพลิเคชั่นมือถือได้ปูทางสู่ยุคใหม่ของ Mobile Banking 
  • พ.ศ. 2551: วิกฤตการณ์ทางการเงินทั่วโลกทำให้ผู้คนยอมรับ Mobile Banking เร็วขึ้น เนื่องจากลูกค้าต้องการการควบคุมและการเข้าถึงการเงินของตนมากขึ้น ธนาคารต่าง ๆ ลงทุนใน Mobile Banking เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น
  • พ.ศ. 2553: แอป Mobile Banking มีบริการหลากหลายมากขึ้น โดยมีคุณลักษณะต่างๆ เช่น การจัดการบัญชี การโอนเงิน การชำระบิล และประวัติการทำธุรกรรม ธนาคารเริ่มใช้ประโยชน์จากความสามารถของสมาร์ทโฟนเพื่อยกระดับประสบการณ์ผู้ใช้
  • พ.ศ. 2554: การฝากเช็คผ่านมือถือได้รับความนิยมอย่างมาก ทำให้ลูกค้าสามารถฝากเช็คได้โดยการถ่ายภาพด้วยกล้องของสมาร์ทโฟน สิ่งนี้ทำให้ไม่จำเป็นต้องไปที่สาขาของธนาคารเพื่อฝากเช็ค
  • พ.ศ. 2557: การเกิดขึ้นของ E-Wallet เช่น Apple Pay, Google Wallet และ Samsung Pay ปฏิวัติรูปแบบการชำระเงินผ่านมือถืออีกครั้ง แอป Mobile Banking กับ E-Wallet ทำให้ผู้ใช้สามารถชำระเงินแบบไร้สัมผัสโดยใช้สมาร์ทโฟน
  • พ.ศ. 2558: การพิสูจน์ตัวตนด้วย Biometric เช่น การสแกนลายนิ้วมือและการจดจำใบหน้า เริ่มนำมาใช้ในแอป Mobile Banking ซึ่งเพิ่มระดับความปลอดภัยให้กับผู้ใช้
  • พ.ศ. 2559: แอป Mobile Banking เปิดตัวคุณสมบัติขั้นสูง เช่น การชำระเงินแบบ P2P ทำให้ผู้ใช้สามารถส่งเงินให้กับเพื่อนและครอบครัวได้ทันทีโดยใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือหรือที่อยู่อีเมล
  • พ.ศ. 2561: แอป Mobile Banking เริ่มสามารถใช้เครื่องมือการจัดการการเงินส่วนบุคคล ผู้ใช้สามารถกำหนดงบ ติดตามค่าใช้จ่าย และรับข้อมูล คำแนะนำทางการเงินตามรูปแบบการใช้จ่ายของตน
  • พ.ศ. 2563: การระบาดใหญ่ของโควิด-19 เร่งอัตราการใช้ Mobile Banking เนื่องจากมาตรการเว้นระยะห่างทางกายภาพ สร้างอุปสรรคในการติดต่อธนาคารสาขา ลูกค้าจึงต้องพึ่งพา Mobile Banking มากขึ้นสำหรับการโอน-รับ หรือทำธรุกรรมต่าง ๆ
  • พ.ศ. 2564: เทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น บล็อกเชนและสกุลเงินดิจิทัลได้ถูกนำมาใช้ในแอป Mobile Banking ทำให้ผู้ใช้สามารถจัดการและทำธุรกรรมที่เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านอุปกรณ์มือถือของตนได้ และจำนวนผู้ใช้บริการ Mobile Banking ทั่วโลกสูงถึง 3.5 พันล้านคน
  • พ.ศ. 2565: เปิดตัวบริการ Mobile Banking แห่งแรกที่อนุญาตให้ผู้ใช้ AR และ VR สำหรับการวางแผนทางการเงิน

ประโยชน์ของ Mobile Banking

ความสะดวกสบายและการเข้าถึง

ข้อดีที่สำคัญที่สุดของ Mobile Banking คือความสะดวกสบายที่สาขาธนาคารไม่มีทางเทียบได้ ลูกค้าสามารถเข้าถึงบัญชีของตนได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าจะนั่งพักบนโซฟา เดินทางไปเที่ยวต่างประเทศ หรือกินข้าวในร้านอาหาร ธนาคารของคุณก็อยู่ในมือตลอดเวลา

ความปลอดภัยขั้นสูง

Mobile Banking ได้พัฒนาให้มีความปลอดภัยสูงและมีการเข้ารหัส ธนาคารใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย เช่น การยืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริก การยืนยันตัวตนแบบ two-factor และ end-to-end encryption เพื่อความปลอดภัยในข้อมูลทางการเงินของลูกค้า อีกทั้งยังมีระบบตรวจจับการฉ้อโกงแบบ real time

การจัดการทางการเงินที่มีประสิทธิภาพ

หมดยุคของการเก็บบันทึกด้วยตนเองและการอ่านข้อความในเอกสารเป็นตั้งๆ Mobile Banking ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงยอดคงเหลือในบัญชี อ่านประวัติการทำธุรกรรมและรูปแบบการใช้จ่ายแบบเรียลไทม์ ซึ่งทำให้ผู้ใช่งานสามารถติดตามค่าใช้จ่าย กำหนดงบ และออมเงินได้สะดวกยิ่งขึ้น

ธุรกรรมที่ราบรื่น

Mobile Banking ได้เปลี่ยนวิธีการโอนเงินของเรา ไม่ว่าคุณจะต้องการจ่ายค่าอาหารให้เพื่อน จ่ายบิล หรือชำระเงินค่า fitness รายเดือน Mobile Banking ช่วยให้เราสามารถทำธุรกรรมได้อย่างรวดเร็วและไม่ยุ่งยาก ด้วยฟีเจอร์ต่างๆ เช่น การชำระเงินแบบ peer-to-peer (P2P) การชำระเงินแบบไร้สัมผัส เพียงแตะแล้วไป และตัวเลือกสแกนเพื่อจ่ายอย่าง QR Code

การเข้าถึงการเงิน

Mobile Banking มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมให้ผู้คนเข้าถึงบริการทางการเงินมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภูมิภาคที่ห่างไกลและด้อยดอกาส การนำสมาร์ทโฟนมาใช้อย่างแพร่หลาย ทำให้ผู้คนไม่ต้องเดินทางไกลเพื่อไปใช้บริกาสาขารธนาคาร แต่เพียงเปิดมือถือเข้าใช้งานแอป Mobile Banking ได้เลย

อนาคตของ Mobile Banking

AI & Chat Bot

ปัจจุบันได้มีการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในแอป Mobile Banking มากขึ้น แชทบอทที่บริการด้วย AI คอยช่วยเหลือและตอบคำถามลูกค้าแบบ Personalized ช่วยเหลือผู้ใช้ในการนำทางผ่านขั้นตอนธุรกรรมที่ต่างๆ และสามารถคอยให้คำแนะนำทางการเงินอีกด้วย ลองคิดดูว่าผู้ช่วย AI เหล่านี้จะมีความสามารถในการเข้าใจภาษาธรรมชาติและเรียนรู้จากการโต้ตอบกับลูกค้า จะช่วยยกระดับประสบการณ์การใช้ Mobile Banking ของเราได้มากแค่ไหนกัน

เทคโนโลยีไบโอเมตริกซ์

ปัจจุบัน Mobile Banking กำลังใช้วิธียืนยันตัวตนด้วยไบโอเมตริกซ์ เช่น การจดจำลายนิ้วมือ การจดจำใบหน้า และการสแกนม่านตา เพื่อให้สามารถเข้าถึงบัญชีผู้ใช้ได้อย่างปลอดภัย ไบโอเมตริกมอบระดับความปลอดภัยที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับ PIN หรือรหัสผ่านแบบเดิม เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้า เราสามารถคาดหวังได้ว่าไบโอเมตริกจะซับซ้อนยิ่งขึ้น อย่างเมื่อไม่นานมานี้ที่ Tencent ประเทศจีนสามารถให้ผู้ใช้ชำระเงินด้วยการสแกนฝ่ามือเท่านั้น

ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเกิดใหม่

Mobile Banking พร้อมเสมอที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ เช่น blockchain และ cryptocurrency เทคโนโลยีบล็อกเชนสามารถปฏิวัติการธนาคารโดยเพิ่มความปลอดภัย ยกระดับความโปร่งใส และประสิทธิภาพในการทำธุรกรรม Cryptocurrencies เช่น Bitcoin และ Ethereum ได้เข้าสู่แอพธนาคารบนมือถือแล้ว ทำให้ผู้ใช้มีตัวเลือกการลงทุนมากขึ้น

ปัจจุบัน Mobile Banking ทำอะไรได้บ้าง ?

การจัดการบัญชี

  • ดูยอดคงเหลือในบัญชี: ตรวจสอบยอดเงินฝาก บัตรเครดิต และบัญชีอื่นๆ
  • ประวัติการทำธุรกรรม: ตรวจสอบและติดตามธุรกรรมล่าสุด
  • ใบแจ้งยอดบัญชี: เข้าถึงและดาวน์โหลดใบแจ้งยอดบัญชีรายเดือนหรือตามต้องการ
  • การปรับแต่งบัญชี: ปรับแต่งการตั้งค่าบัญชีของคุณ เช่น การอัปเดตข้อมูลติดต่อ

การโอนเงิน

  • การโอนเงินภายใน: โอนเงินระหว่างบัญชีของคุณเอง เช่น การโอนเงินจากบัญชีกระแสรายวันไปยังบัญชีออมทรัพย์
  • การโอนเงินภายนอก: โอนเงินไปยังบุคคลหรือธุรกิจอื่น ๆ ไม่ว่าจะภายในธนาคารเดียวกันหรือธนาคารอื่น
  • การชำระเงินแบบ Peer-to-Peer (P2P): ส่งเงินให้เพื่อน ครอบครัว หรือคนรู้จักทันทีโดยใช้หมายเลขโทรศัพท์มือถือหรือที่อยู่อีเมล

การชำระบิล:

  • ชำระบิล: ตั้งค่าและชำระบิลโดยตรงจากแอป Mobile Banking ของคุณ เช่น ค่าสาธารณูปโภค ค่าเช่า ค่าประกัน หรือค่าบัตรเครดิต
  • การชำระเงินอัตโนมัติ: กำหนดการชำระเงินที่เกิดขึ้นประจำ รายสัปดาหฺ รายเดือนสำหรับใบแจ้งหนี้ด้วยจำนวนเงินที่แน่นอน เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะสามารถชำระเงินได้ตรงเวลา
  • การแจ้งเตือนการเรียกเก็บเงิน: รับการแจ้งเตือนเมื่อถึงกำหนดเรียกเก็บเงินเพื่อหลีกเลี่ยงการชำระเงินล่าช้า

E-Wallet

  • การชำระเงินผ่านมือถือ: ใช้แอป Mobile Banking ของคุณหรือกระเป๋าเงินมือถือที่เกี่ยวข้อง (เช่น Apple Pay, Google Pay, Shopee Pay) เพื่อชำระเงินแบบไร้สัมผัสที่ร้านค้า ร้านอาหาร และร้านค้าออนไลน์ที่ร่วมรายการ
  • การถอน ATM แบบไม่ใช้บัตร: ถอนเงินสดจากตู้ ATM โดยใช้แอป Mobile Banking แทนบัตรเดบิต

ความปลอดภัยของบัญชี

  • การพิสูจน์ตัวตนด้วยไบโอเมตริก: ใช้ลายนิ้วมือ การจดจำใบหน้า หรือการสแกนม่านตาเพื่อเข้าถึงแอป Mobile Banking ของคุณอย่างปลอดภัย
  • การรับรองความถูกต้องด้วย 2FA หรือ OTP: เปิดใช้งานการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมอีกชั้นหนึ่งโดยกำหนดให้ใช้รหัสเฉพาะหรือข้อความยืนยันสำหรับการทำธุรกรรม
  • การควบคุมบัตร: บล็อกหรือปิดใช้งานบัตรเดบิตหรือบัตรเครดิตของคุณชั่วคราวหากบัตรสูญหายหรือถูกขโมย และเปิดใช้งานการแจ้งเตือนสำหรับทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นของบัตร

การจัดการทางการเงิน

  • เครื่องมือจัดทำงบ: ตั้งค่าและติดตามวงเงินใช้จ่าย จัดหมวดหมู่ค่าใช้จ่าย และรับการแจ้งเตือนเมื่อใกล้ถึงงบหรือเกินงบ
  • เป้าหมายการออม: กำหนดเป้าหมายการออมและติดตามความคืบหน้า รับข้อมูลและคำแนะนำเพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมาย
  • การวิเคราะห์การใช้จ่าย: วิเคราะห์รูปแบบและแนวโน้มการใช้จ่ายของคุณ โดยให้ข้อมูลว่าเงินของคุณสามารถใช้ได้อย่างไรบ้าง
  • การวางแผนทางการเงิน: เข้าถึงเครื่องคิดเลข และเครื่องมือการลงทุนเพื่อวางแผนสำหรับอนาคต

สนับสนุนลูกค้า

  • แชทบอทและ AI: คุยกับแชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI เพื่อแก้ไขปัญหาแบบทันที
  • ติดต่อพนักงาน: คุยกับทีมลูกค้าสัมพันธ์ของธนาคาร ส่งคำถาม รายงานปัญหา หรือขอความช่วยเหลือ

Mobile Banking ได้เปลี่ยนพฤติกรรมการเงินของเราอย่างสิ้นเชิง มอบความสามารถในการจัดการที่สะดวกสบาย และความปลอดภัย ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างรวดเร็ว เราสามารถคาดได้ว่า Mobile Banking จะพัฒนาและพลิกโฉมอุตสาหกรรมการเงินไปมากกว่านี้ ประสบการณ์ของผู้ใช้จะราบรื่นขึ้น ใช้งานได้สะดวกขึ้นมากกว่านี้อีก