ช่วงนี้กระแส Black Card มาแรงมาก เพราะศิลปิน K-POP เซเลบริตี้ ไอดอลเกาหลี รวมไปถึงคนดังระดับโลก ต่างก็ใช้บัตร Black Card หลายคนอาจสงสัย บัตรเครดิตคนรวย (Black Card) พิเศษอย่างไร ทำไมคนที่ถือบัตร Black Card ถึงมีเฉพาะคนดัง มีชื่อเสียงในแวดวงสังคม หรือมีฐานะดี ๆ ทั้งนั้น วันนี้มาไขข้อข้องใจและทำความรู้จักกับบัตรแบล็คการ์ดไปพร้อมกัน
บัตรเครดิตคนรวย (Black Card) คืออะไร?
บัตรเครดิตระดับสูงสุดที่มอบประโยชน์ และบริการที่เหนือระดับกว่าบัตรเครดิตทั่วไป นับเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์แสดงออกถึงความหรูหรา สถานะทางสังคมของผู้ถือบัตร รวมถึงความสำเร็จ และความมั่งคั่งในชีวิตด้วย เพราะผู้ที่ถือ Black Card นั้น ไม่ใช่ว่าใครๆ ก็มีได้ เนื่องจากสงวนไว้สำหรับผู้ที่มีฐานะร่ำรวย มีเงินในบัญชีมหาศาล และเป็นผู้มีชื่อเสียงที่ได้รับเชิญจากสถาบันการเงินเท่านั้น เช่น อภิมหาเศรษฐี นักธุรกิจระดับสูง เซเลป นักแสดง นักร้อง เป็นต้น
บัตรแบล็คการ์ด นั้นโด่งดังมากในประเทศเกาหลีใต้ เนื่องจากศิลปิน K-POP ชื่อดังหลายคนถือครอบครอง เช่น ท็อป BIGBANG, จองกุก BTS, แทยอน Girls' Generation, ซูโฮ EXO รวมไปถึงผู้ที่ถือ Black Card คนไทย อย่างลิซ่า วง Blackpink, คุณชาย อานันท์ทวีป ชยางกูร ณ อยุธยา นักธุรกิจและเซเลบริตี้ชื่อดังของไทย เป็นต้น
โดยที่มาของบัตร Black Card นั้น เริ่มต้นมาจากบริษัท American Express ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มออกบัตรเป็นครั้งแรก โดยบัตรนี้ให้อภิสิทธิ์มากมาย เช่น วงเงินใช้จ่ายไม่จำกัด อัปเกรดตั๋วเครื่องบิน ห้องพักโรงแรม สิทธิ์ในการเข้าถึงสถานที่ต่าง ๆ ที่เป็นส่วนตัว บริการช่วยเหลือฉุกเฉินและบริการส่วนบุคคล ฯลฯ
จากนั้น บัตร Black Card ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และกลายเป็นสัญลักษณ์ของความร่ำรวย ความมีสถานะทางสังคม จนทำให้ธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ๆ ได้ออกบัตร Black Card ของตนเองตามมา
บัตร Black Card มีกี่แบบ?
บัตรแบล็คการ์ด มีหลายแบบ ขึ้นอยู่กับผู้ให้บริการและคุณสมบัติของผู้ถือบัตร โดยทั่วไปแล้ว บัตร Black Card แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
- บัตร Black Card ระดับสากล
ให้บริการโดยผู้ให้บริการบัตรเครดิตระดับโลก เช่น American Express, Visa, และ Mastercard บัตรประเภทนี้มักมีโปรโมชั่นและอภิสิทธิ์ที่ครอบคลุมทั่วโลก
- บัตร Black Card ระดับประเทศ
ให้บริการโดยผู้ให้บริการบัตรเครดิตในประเทศ โดยมอบความคุ้มค่าและอภิสิทธิ์เน้นไปที่ประเทศหรือภูมิภาคที่ให้บริการ เช่น การจองตั๋วเครื่องบินและห้องพักโรงแรม รับประทานอาหาร เป็นต้น
บัตร Black Card วงเงินเท่าไหร่?
บัตร Black Card มีวงเงินให้ไม่จำกัด แต่ก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของสถาบันการเงินที่ออกบัตรให้ แต่โดยทั่วไปแล้ววงเงินของ Black Card ก็จะอยู่ที่หลักล้านบาทขึ้นไป
อยากเป็นเจ้าของบัตร Black Card ต้องมีเงินเท่าไหร่?
สำหรับใครอยากอยากจะถือบัตร Black Card จะต้องมีคุณสมบัติตรงตามเกณฑ์ที่สถาบันการเงินที่ออกบัตรกำหนด แต่โดยทั่วไปแล้วต้องเป็นผู้ทีมียอดใช้จ่ายอย่างน้อยปีละหลายล้านบาท และต้องมีรายได้อย่างน้อยหลายสิบล้านบาทต่อปี
ประโยชน์ของบัตร Black Card
อย่างที่บอกไปว่าบัตร Black Card จะให้อภิสิทธิ์มากมายที่หาไม่ได้จากบัตรประเภทอื่นๆ ยกตัวอย่างเช่น
- ได้รับวงเงินการใช้จ่ายไม่จำกัด ซึ่งช่วยให้ผู้ถือบัตรสามารถใช้จ่ายได้อย่างสบายใจโดยไม่ต้องกังวลเรื่องวงเงิน
- อัพเกรดตั๋วเครื่องบินและห้องพักโรงแรม
- การเข้าใช้สถานที่ต่าง ๆ ที่เป็นส่วนตัว เช่น ห้องรับรองพิเศษในสนามบิน
- บริการช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น บริการช่วยเหลือด้านการแพทย์ ด้านกฎหมาย
- บริการส่วนบุคคล เช่น บริการจองตั๋วเครื่องบินและห้องพักโรงแรม บริการเลขาส่วนตัว เป็นต้น
บัตรเครดิตสำหรับคนรวยในประเทศไทยมีอะไรบ้าง ?
แม้คนไทยจะไม่มี Black Card แบบตรงๆ แต่ก็ยังมีบัตรเครดิตระดับพรีเมียมของธนาคารต่างๆที่มอบสิทธิประโยชน์มากมายใกล้เคียงกับบัตร Black Card เช่น
บัตรเครดิตคนรวย |
เงินฝาก/เงินลงทุนขั้นต่ำ |
100 ล้านบาทขึ้นไป |
|
50 ล้านบาทขึ้นไป |
|
50 ล้านบาทขึ้นไป |
|
KBank The Wisdom Credit Card Visa Infinite ของธนาคารกสิกรไทย |
150 ล้านบาทขึ้นไป |
30 ล้านบาทขึ้นไป |
แต่สำหรับใครที่อยากเป็นเจ้าของบัตรเครดิตสักใบ โดยไม่ต้องถึงขั้นครอบครองบัตร Black Card แต่ยังคงได้รับโปรโมชั่นมากมายไม่แพ้กัน บัตรเครดิต KTC ยังมีให้คุณได้เลือกถือครองตามไลฟ์สไตล์ของคุณอีกเพียบสมัครบัตรเครดิต KTC ออนไลน์ได้เลย